วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บ่อเกลือ น่าน


www.facebook.com/naktungteaw


         บ่อเกลือ ตั้งอยู่ใน อำเภอบ่อเกลือ บ่อเกลือนี้มีมาแต่โบราณส่งขาย ยังกรุงสุโขทัย เชียงใหม่ เชียงตุงหลวงพระบาง รวมถึงสิบสองปันนา




 ปัจจุบันชาวบ้านยังคงต้มแกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิม จะตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพัก
 












การทำ เกลือ ของชาวบ้านบ่อเกลือ นำน้ำเกลือที่ตักจากบ่อมาต้มในกระทะประมาณ 4-5ชั่วโมงให้น้ำเกลือระเหยแห้งจาก นั้นก็จะนำไม้พายมาตักเกลือใส่ตะกร้าที่แขวนไว้เหนือกระทะเพื่อให้น้ำเกลือไหลลงมาในกระทะทำอย่างนี้ ไปเรื่อย จนน้ำในกระทะแห้ง




ลำธารที่ติดกับบ่อเกลือแต่น้ำในลำธารไม่เค็มนะ



พิพิธภัณฑ์ ช้างเอราวัณ

 พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ  ตึกรูปทรงช้างสามเศียรขนาดใหญ่ มีความสูงเท่ากับตึกสูงประมาณ ๑๗ ชั้น ความสูงจากพื้นดินถึงยอด ๕๐ เมตร ตัวอาคารด้านล่างมีระเบียงรอบเป็นวงกลม ภายในแบ่งการจัดแสดงเป็น ๓ ส่วน ตามลักษณะไตรภูมิ คือชั้นล่างสุดเป็นชั้นบาดาล











ส่วนที่สอง คือ ชั้นมนุษย์โลก บนเพดานเป็นกระจกสีออกแบบเป็นรูปแผนที่โลกโดยศิลปินจากประเทศเยอรมนี
 

ชั้นมนุษย์โลก มีซุ้มพระเกตุประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมอายุเก่าแก่ถึง ๑,๓๐๐ ปี เป็นสัญลักษณ์ 










 ชั้นมนุษย์โลก เป็นชั้นที่ตกแต่งวิจิตรงดงามที่สุดด้วยลวดลายปูนปั้นประดับเบญจรงค์ ฝีมือศิลปินและช่างจากจังหวัดเพชรบุรี















ส่วนที่สาม คือ ชั้นสวรรค์ เป็นชั้นที่อยู่ในตัวช้าง  ชั้นนี้จะเป็นที่ตั้งแสดงโบราณวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีค่า เช่น พระพุทธรูปและเทวรูป ส่วนบนผนังท้องช้าง หรือเพดานเป็นภาพเขียนสีฝุ่นรูปสุริยจักรวาลบนแผ่นกระจก เป็นรูปทวีปทั้ง ๕ และกลุ่มจักรราศี ผลงานของศิลปินชาวเยอรมัน











วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กิ่วเเม่ปาน...ดอยอินทนนท์

www.facebook.com/naktungteaw  

 เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วเเม่ปาน  ดอยอินทนนท์

 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง เส้นทางเดินช่วงเเรกที่เข้าไปสัมผัสป่าดิบเขา ลักษณะจะครึ้ม ชื้นชุ่มฉ่ำไปด้วยมอสและเฟิร์นผ่านพ้นป่าดิบออกมา ก็มาเจอทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ เห็นไอหมอกเมฆไหลมาอยู่เบื้องหน้าเเละในกิโลเมตรที่สองของการเดิน ทางจะเริ่มลงเขา ไล่ไปตามหน้าผา สักพักเส้นทางจะบีบเป็นเส้นทางแคบ เดินได้แค่คนเดียวบนสันเขา ตรงนี้เเหละที่เค้าเรียกกันว่า "กิ่วแม่ปาน" คำว่ากิ่ว แปลว่า ทางเเคบที่อยู่บนสันเขาจะพบกับต้นกุหลาบพันปีแดงขึ้นอยู่ตามหน้าผาเป็นดงกว้างจำนวนมากและมีขนาดใหญ่ แล้วจึงวกกลับเข้าสู่ป่าดิบเขาอีกครั้งหนึ่ง เป็นการเดินช่วงสุดท้าย



ทางเข้าอยู่บรืเวณที่จอดรถเข้าชม พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ 


เส้นทางเดินช่วงเเรกที่เข้าไปสัมผัสป่าดิบเขา ลักษณะจะครึ้ม 







น้ำตกเล็กๆ แหล่งต้นน้ำ









ช่วง 2 เจอทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ เห็นไอหมอกเมฆไหลมาอยู่เบื้องหน้า








เส้นทางจะบีบเป็นเส้นทางแคบไล่ไปตามหน้าผา กวางผาจะอยู่ตามโขดหินด้านล่างแต่ไอหมอกเมฆมากคงไม่มีโอกาสเห็น







ทางแคบไปตามหน้าผา


ดอกกุหลาบพันปี













ลูกเบอรี่ป่า ไกด์ชาวภูเขาเก็บให้ลองชิม กินแล้วทั้งปากและลิ้นเป็นสีม่วงเลย....เปรี้ยวววว








วิว พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ  มองจากยอดกิ่วเเม่ปาน